เราต้องตั้งราคาซื้อรถบวกค่าประกันภัย เผื่อไว้เป็นค่าซ่อมรถในอนาคต ในกรณีที่ซื้อเงินสด ให้นำเงินที่มีแยกออกมาหักเป็นค่าประกันภัยและค่าซ่อมรถอีกประมาณ 5 - 10 % ของราคารถยนต์ เหลือออกมาเป็นราคาเต็มจำนวนที่จะซื้อ ส่วนในกรณีที่ซื้อเงินผ่อนก็ต้องหักค่าประกันภัยและค่าซ่อมแซมออก เหลือเป็นเงินดาว์น แล้วมาคำนวณอีกทีว่าผ่อนรายเดือนไหวไหม โดยทั่วไปต้องดาว์นประมาณ 20-30 % ของราคาเต็ม และผ่อนไม่เกิน 3 ปี สถานที่จำหน่าย การซื้อจากผู้ใช้โดยตรงก็ไม่แน่ว่าจะได้รถยนต์สภาพดีทุกคัน
สภาพที่แท้จริงของการรับซื้อรถยนต์มือสองจากผู้ใช้เดิม ซึ่งอาจนำรถยนต์สภาพดีมาแลกไว้ที่เต็นท์บริการก็ได้
และรถยนต์ที่ประกาศขายตามบ้าน อาจมีสภาพแย่จนเต็นท์ไม่รับก็เป็นได้
เต็นท์บริการรายใหญ่และทำธุรกิจระยะยาวมักไม่ย้อมแมว
เพราะต้องรักษาและสร้างชื่อเสียงในระยะยาวเป็นวงแต่เต็นท์บริการเล็กๆ
ที่ใช้วิธีตีหัวเข้าบ้านหวังผลระยะสั้นก็มีไม่น้อย
กรณีซื้อเงินผ่อน
หากซื้อจากเจ้าของโดยตรงจะยุ่งยากในการหาแหล่งเงินรองรับ
หากซื้อจากเต็นท์จะมีบริการให้เสร็จสรรพ จ่ายเงินดาวน์แล้วอีก 1-2
ชั่วโมงก็ขับออกมาได้เลย ด้านราคา การซื้อจากเต็นท์จะแพงกว่าการซื้อจากผู้ใช้โดยตรงเล็กน้อย
เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายทางธุรกิจบ้าง แต่ก็ไม่แน่เสมอไป อาจมีการลดราคากันมาก ทุกคันมีจุดเด่น ราคาไม่ใช่บทสรุปของการเลือก
ควรขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานว่าตรงกับคุณสมบัติของรถยนต์รุ่นใด เช่น
เน้นซ่อมง่าย, อะไหล่ถูก, ชอบสมรรถนะ, ห่วงราคาขายต่อ, ต้องการความปลอดภัย, ชอบรูปลักษณ์, ฯลฯ ล้วนมีตัวเลือกต่างกันในวงเงินเท่ากัน ต้องศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ
โดยเฉพาะประเด็นค่าซ่อมและอะไหล่ การซื้อรถยนต์มือสองยอดนิยม สวย สมรรถนะดี
แต่อะไหล่แพงสุดกู่ อย่างนี้ก็ไม่ไหว เทคนิคการเลือก ไม่มีรถยนต์มือสองที่สมบูรณ์ 100%
ทุกคันต้องมีตำหนิบ้างไม่มากก็น้อย หลักการเลือก คือ ถ้าจุดใดเสียหาย
ต้องสามารถเปลี่ยนได้อย่างสะดวกในราคาไม่แพง โดยไม่ทำให้ตัวรถยนต์ช้ำ
แล้วนำค่าซ่อมที่ประเมินราคารถมือสอง ไว้ไปต่อรองลดจากราคาเต็มโดยเน้น 2
จุดหลักว่าไม่ควรเสียหายหนัก คือ ตัวถังหลักและเครื่องยนต์ ตัวถังไม่ควรชนหนักหรือคว่ำมา
แต่อนุโลมให้เคยเฉี่ยวเล็กเฉี่ยวน้อยได้
เพราะตัวถังที่เคยเสียหายหนักอาจส่งผลให้รถยนต์เสียศูนย์การทรงตัว รูปลักษณ์ไม่สวย
และขายต่อยาก